บทที่ 03 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามมองสตรี ไม่ว่าโสดหรือสมรสแล้วอย่างบุคคลทั่วๆ ไปที่มีสิทธิเป็นของตัวเอง, พร้อมทั้งมีสิทธิในความเป็นเจ้าของหรือจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินและสิ่งที่ตนหามาได้โดยปราศจากอำนาจการปกครองใดๆ (ไม่ว่าจะเป็นบิดา สามี หรือบุคคลอื่น) เธอมีสิทธิ์ที่จะซื้อหรือขาย ให้เป็นของขวัญและบริจาค
การกุศล และอาจใช้จ่ายเงินของตนได้อย่างที่ตนพอใจ สินสอดทองหมั้นที่ได้รับมาจากการที่เจ้าบ่าวมอบให้แก่เจ้าสาวเพื่อใช้สอยเป็นการส่วนตัวของเธอเอง และสตรียังสามารถใช้นามสกุลของตนเองได้โดยไม่ต้องใช้นามสกุลของสามีได้อีกด้วย1
ศาสนาอิสลามยังส่งเสริมให้สามีเลี้ยงดูภรรยาให้ดี อย่างที่พระศาสดามูหะหมัด ทรงตรัสว่า
บุคคลที่ดีที่สุดในบรรดาพวกเจ้าก็คือบุคคลซึ่งดีที่สุดต่อภรรยาของตนเอง
ผู้เป็นมารดาในศาสนาอิสลามถือเป็นผู้มีเกียรติอย่างสูง ศาสนาอิสลามแนะนำให้เลี้ยงดูมารดาด้วยวิธีที่ดีที่สุด บุรุษผู้หนึ่งเข้าหาพระศาสดามูหะหมัด และทูลถามว่า “โอ ผู้ถือสารจากพระผู้เป็นเจ้า! ผู้ใดในบรรดาผู้คนทั้งหลาย ควรค่าที่จะเป็นสหายที่ดีของข้าพเจ้าที่สุดพระเจ้าค่ะ” พระศาสดา ทรงตรัสว่า
มารดาของเจ้านะซิ
บุรุษผู้นั้นทูลถามอีกว่า “ใครกันนะ” พระศาสดา ทรงตรัสว่าก็มารดาของเจ้านะซิ} บุรุษผู้นั้นยังคงทูลถามต่อไปอีกว่า “ใครกันนะ” พระศาสดา ทรงตรัสว่า
ก็มารดาของเจ้านะซิ
บุรุษผู้นั้นทูลซ้ำอีกว่า “ใครกันนะ” พระศาสดา ทรงตรัสอีกว่า:
ก็มารดาของเจ้านะซิ2